แนะนำสถานที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้ชิดธรรมชาติ
1. แพลอยน้ำ กาญจนบุรี The Float House River Kwai รอบล้อมด้วย ผืนป่าและสายน้ำ ใกล้ชิดธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ปล่อยตัวปล่อยใจให้สบายไปกับสายน้ำท่ามกลางขุนเขา
นอกจากนี้ ถ้าใครอยากสนุกขึ้นมาอีกหน่อย ที่นี่ก็มีกิจกรรมทั้งล่องแพไปเล่นน้ำ และด้านหลังรีสอร์ทก็จะมี Trail เล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นจักรยานเล่นรอบๆ และแวะตามที่เที่ยวต่างๆ บริเวณนั้นอีกด้วย
2. เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โอบล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขา น้อยใหญ่เรียงรายสลับกับไป ทะเลหมอก ท้องทุ่งนา ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ “บ้านมุง” เป็นหนึ่งในชุมชนของอำเภอเนินมะปรางที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ที่อำเภอเนินมะปรางถ้ำจะเยอะมาก แต่ละถ้ำก็จะไกลๆกันออกไป แต่ส่วนภายในวัดบางมุง จะมีถ้ำอยู่สองถ้ำได้แก่ ถ้ำนางสิบสองและถ้ำหลวงพ่อบุญมี
ด้วยความที่มีเขาหลายลูกและถ้ำมากมาย ดังนั้นเมื่อถึงยามยามอาทิตย์ใกล้อัสดง แสงสุดท้ายจากขอบฟ้ากำลังจะลับหายไป เหล่านกบินกลับรัง แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของบรรดาค้างคาวจำนวนมาก บินออกจากถ้ำเป็นสายควันดำโบกสะบัดเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวไปมา
3. ทะเลสาบเชี่ยวหลาน แพ500ไร่ จ.สุราษฎร์ธานี
แพ 500 ไร่ ที่พักสไตล์ Eco Luxury Experience ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฏร์ธานี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติป่าฝนเขตร้อน ที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงามจนติดอันดับ 1 ใน 8 อุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Vogue ฝรั่งเศส
แถมที่นี่ยังเป็นหนึ่งในที่พักที่การันตีถึงการบริการที่ดีเยี่ยม เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่รักความสงบ ธรรมชาติ และความเป็นส่วนตัว พร้อมอาหาร และกิจกรรม พื้นที่นั่งฟังเสียงหัวใจ และแหล่งชาร์ตพลังงานสำหรับครอบครัว
4. สวนป่าดอยบ่อหลวง จ.เชียงใหม่
พื้นที่โดยรอบ เต็มไปด้วยต้นสนสามใบสูงชะลูดเรียงกันเป็นทิวแถวสวยงาม
ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว และจุดถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว ยังมีบ้านพักหลากหลายแบบของทางองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ให้บริการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู กาน้ำร้อน น้ำดื่ม รวมไปถึง มีลานสนแคมป์ปิ้ง ลานกางเต็นท์อีกจำนวน 3 ลาน ห่างจากโซนบ้านพัก 500 เมตร
แต่ต้องเตรียมเต็นท์กับอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ มาเอง มีค่าบำรุงสถานที่ คนละ 100 บาท มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ห้องอาบน้ำ และจุดล้างภาชนะ
สำหรับอาหารมื้อเย็น สามารถสั่งชุดหมูกระทะมานั่งทานได้ ราคาชุดละ 249 บาท ส่วนมื้อเช้าจะเป็นข้าวต้ม ขนมปัง ไข่ลวก กาแฟ และผลไม้ ราคาหัวละ 100 บาท
ราคาที่พัก
– บ้าน A Frame (หลังใหญ่) พักได้ 4-5 คน ราคาหลังละ 1,500 บาท
– บ้านทิวสน พักได้ 2 คน ราคาหลังละ 1,000 บาท
– บ้านแฝด พักได้ 2 คน ราคาหลังละ 800 บาท
– บ้านปูนเปลือย พักได้ 4 คน ราคาหลัง 2,000 บาท
– ตึกป่าสน (Hotel) พักได้ 2 คน ราคาห้องละ 500 บาท
สอบถามห้องพัก โทร. 092 586 9215 (เวลา 9.00 – 18.00 น.)
5. ภูทับเบิก เพชรบูรณ์
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ พื้นที่ที่นี่เต็มไปด้วยแกงค์ผู้มีอิทธิพลสีเขียว นั่นคือ กะหล่ำปลีลูกกลม ที่รายล้อม ถ้าจะมาเที่ยวบ้านของกะหล่ำปลี
จะมาได้ 2 ช่วงค่ะ คือ
ช่วงที่ 1 ตั้งแต่ กลางเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
ช่วงที่ 2 เดือนตุลาคม-กลางเดือนธันวาคม
ขอบคุณที่มาสถานที่แนะนำ : Sneakoutหนีเที่ยว