หน้าฝนนี้เที่ยวไหนดี ??

June 8, 2020 | by Tour In Love : คิดจะเที่ยว คิดถึงเรา ทัวร์อินเลิฟ เที่ยวได้จริง บริการด้วยใจ

แนะนำสถานที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้ชิดธรรมชาติ

1. แพลอยน้ำ กาญจนบุรี The Float House River Kwai รอบล้อมด้วย ผืนป่าและสายน้ำ ใกล้ชิดธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ปล่อยตัวปล่อยใจให้สบายไปกับสายน้ำท่ามกลางขุนเขา

นอกจากนี้ ถ้าใครอยากสนุกขึ้นมาอีกหน่อย ที่นี่ก็มีกิจกรรมทั้งล่องแพไปเล่นน้ำ และด้านหลังรีสอร์ทก็จะมี Trail เล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นจักรยานเล่นรอบๆ และแวะตามที่เที่ยวต่างๆ บริเวณนั้นอีกด้วย

ข้อมูลเครดิต+ภาพ : https://travel.trueid.net/

2. เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โอบล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขา น้อยใหญ่เรียงรายสลับกับไป ทะเลหมอก ท้องทุ่งนา ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ “บ้านมุง” เป็นหนึ่งในชุมชนของอำเภอเนินมะปรางที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว 

ที่อำเภอเนินมะปรางถ้ำจะเยอะมาก แต่ละถ้ำก็จะไกลๆกันออกไป แต่ส่วนภายในวัดบางมุง จะมีถ้ำอยู่สองถ้ำได้แก่ ถ้ำนางสิบสองและถ้ำหลวงพ่อบุญมี

ด้วยความที่มีเขาหลายลูกและถ้ำมากมาย ดังนั้นเมื่อถึงยามยามอาทิตย์ใกล้อัสดง แสงสุดท้ายจากขอบฟ้ากำลังจะลับหายไป เหล่านกบินกลับรัง แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของบรรดาค้างคาวจำนวนมาก บินออกจากถ้ำเป็นสายควันดำโบกสะบัดเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหวไปมา

ข้อมูลเครดิต: https://paapaii.com/
ภาพจากคุณ Pisanuchai S. คุณพิษณุชัย ทรงพุฒิ จากเพจ ที่นี่ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก, th.wikipedia.or

3. ทะเลสาบเชี่ยวหลาน แพ500ไร่ จ.สุราษฎร์ธานี
แพ 500 ไร่ ที่พักสไตล์ Eco Luxury Experience ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฏร์ธานี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติป่าฝนเขตร้อน ที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงามจนติดอันดับ 1 ใน 8 อุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Vogue ฝรั่งเศส

แถมที่นี่ยังเป็นหนึ่งในที่พักที่การันตีถึงการบริการที่ดีเยี่ยม เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่รักความสงบ ธรรมชาติ และความเป็นส่วนตัว พร้อมอาหาร และกิจกรรม พื้นที่นั่งฟังเสียงหัวใจ และแหล่งชาร์ตพลังงานสำหรับครอบครัว

ข้อมูลเครดิต+ภาพ: https://www.tripgether.com/

4. สวนป่าดอยบ่อหลวง จ.เชียงใหม่
พื้นที่โดยรอบ เต็มไปด้วยต้นสนสามใบสูงชะลูดเรียงกันเป็นทิวแถวสวยงาม

ข้อมูลเครดิต : travel.mthai.com , ภาพ: ว่างก็วาร์ป

ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว และจุดถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว ยังมีบ้านพักหลากหลายแบบของทางองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ให้บริการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู กาน้ำร้อน น้ำดื่ม รวมไปถึง มีลานสนแคมป์ปิ้ง ลานกางเต็นท์อีกจำนวน 3 ลาน ห่างจากโซนบ้านพัก 500 เมตร

แต่ต้องเตรียมเต็นท์กับอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ มาเอง มีค่าบำรุงสถานที่ คนละ 100 บาท มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ห้องอาบน้ำ และจุดล้างภาชนะ
สำหรับอาหารมื้อเย็น สามารถสั่งชุดหมูกระทะมานั่งทานได้ ราคาชุดละ 249 บาท ส่วนมื้อเช้าจะเป็นข้าวต้ม ขนมปัง ไข่ลวก กาแฟ และผลไม้ ราคาหัวละ 100 บาท

ราคาที่พัก
– บ้าน A Frame (หลังใหญ่) พักได้ 4-5 คน ราคาหลังละ 1,500 บาท
– บ้านทิวสน พักได้ 2 คน ราคาหลังละ 1,000 บาท
– บ้านแฝด พักได้ 2 คน ราคาหลังละ 800 บาท
– บ้านปูนเปลือย พักได้ 4 คน ราคาหลัง 2,000 บาท
– ตึกป่าสน (Hotel) พักได้ 2 คน ราคาห้องละ 500 บาท
สอบถามห้องพัก โทร. 092 586 9215 (เวลา 9.00 – 18.00 น.)

5. ภูทับเบิก เพชรบูรณ์
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ พื้นที่ที่นี่เต็มไปด้วยแกงค์ผู้มีอิทธิพลสีเขียว นั่นคือ กะหล่ำปลีลูกกลม ที่รายล้อม ถ้าจะมาเที่ยวบ้านของกะหล่ำปลี

จะมาได้ 2 ช่วงค่ะ คือ
ช่วงที่ 1 ตั้งแต่ กลางเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
ช่วงที่ 2 เดือนตุลาคม-กลางเดือนธันวาคม

ข้อมูลเครดิต+ภาพ : https://travel.trueid.net/

ขอบคุณที่มาสถานที่แนะนำ : Sneakoutหนีเที่ยว